ลมพิษ (Urticaria)
![](https://thadaclinic.com/wp-content/uploads/2024/01/ลมพิษ1.webp)
ลมพิษ หรือผื่นลมพิษ (Urticaria) เป็นอาการแสดงทางผิวหนัง ที่มีลักษณะเป็นผื่นนูน แดง และคัน
ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย อาจเกิดจากสาเหตุที่ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อยา อาหาร การติดเชื้อ สิ่งกระตุ้น ทางกายภาพ (Physical) หรือโรคในระบบอื่นๆ ของร่างกาย
![](https://thadaclinic.com/wp-content/uploads/2024/01/ลมพิษ2.webp)
อาการและอาการแสดง
มีผื่นเป็นลักษณะบวมนูน แดง เป็นปื้น ขอบเขตชัดเจน มีขนาดไม่แน่นอน บางรอยโรคจะมีสีซีด ตรงกลาง เกิดขึ้นบริเวณใดของร่างกายก็ได้ บางรายอาจมีอาการบวมใต้ชั้นผิวหนังที่เรียกว่า แองจิโออีดีมา (angioedema) ร่วมด้วย มักเกิดบริเวณเนื้ออ่อน เช่น หนังตา ริมฝี ปาก เป็นต้น ผื่นมักจะจางหายภายใน 24 ชั่วโมง เมื่อหายแล้วจะเป็นผิวหนังปกติไม่มีร่องรอยเหลืออยู่ ผื่นมักจะเป็นๆหายๆ
โรคลมพิษแบ่งตามระยะเวลาที่เกิดได้ 2 ชนิด คือ
- ลมพิษแบบเฉียบพลัน (acute urticaria) คือมีอาการผื่นลมพิษ ต่อเนื่องกันไม่เกิน 6 สัปดาห์
- ลมพิษแบบเรื้อรัง (chronic urticaria) คือมีอาการผื่นลมพิษ ต่อเนื่องกันเกิน 6 สัปดาห์ ลมพิษที่เกิดขึ้นเมื่อมีการกระตุ้นจากสาเหตุทางกายภาพภายนอก (Physical Urticaria) มีหลายชนิดได้แก่
– Dermographism urticaria: ลมพิษที่เกิดเมื่อมีการเกา หรือการขีดที่ผิวหนัง
– Cholinergic urticaria: ลมพิษที่เกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น เช่น เมื่อออกกำลังกาย
– Cold urticaria: ลมพิษที่เกิดจากความเย็น เช่น สัมผัสกับน้ำเย็นหรืออากาศเย็น
– Heat urticaria: ลมพิษที่เกิดจากความร้อน เช่น อากาศร้อนหรือสัมผัสกับความร้อน
– Contact urticaria: ลมพิษที่เกิดขึ้นจากการสัมผัส เช่น ยา เครื่องสำอาง ขนสัตว์ หรือสารเคมีบางชนิด
– Delayed pressure urticaria: ลมพิษที่เกิดจากการกดทับบนผิวเป็นเวลานาน
– Aquagenic urticaria: ลมพิษที่เกิดเมื่อสัมผัสกับน้ำ
– Solar urticaria: ลมพิษเกิดขึ้นเมื่อเผชิญแสงแดดหรือรังสี UV
– Vibratory angioedema: ลมพิษเกิดขึ้นเมื่อสัมผัสแรงสั่นสะเทือน เช่น เครื่องขุดเจาะถนน หรือหลังใช้เครื่องนวดระบบสั่น
การรักษา
- หาสาเหตุ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นให้เกิดลมพิษ เช่น ความเครียด อากาศร้อน อาการเย็น ยาบางประเภท สารเคมี
- ยาต้านอิสตามีน (H1 and H2-antihistamines)