โบทูลินั่ม ท็อกซิน
โบท็อกซ์?
Botolinum Toxin โบทูลินั่ม ท็อกซิน การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว การแสดงออกทางสีหน้า หรือแม้แต่การสูบบุหรี่ สามารถทำให้ผิว บริเวณรอบดวงตา หว่างคิ้ว ปาก และหน้าผากเกิดเป็นริ้วรอย และค่อยๆ ลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ใบหน้าแลดูสูงวัย และเหนื่อยล้าไม่สดใส ปัจจุบันได้มีการพัฒนาสารคลายกล้ามเนื้อลดเลือนริ้วรอยดังกล่าว
ประโยชน์ของการฉีด Botulinum Toxin
- ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดเลือนริ้วรอย
- ทำให้ผิวหน้าแลดูอ่อนวัยขึ้น
- ยกกระชับ
- ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ปรับรูปหน้า V-shape
- ลดเหงื่อที่ออกมามากเกินไป ในบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
ฉีดโบท็อกซ์แต่ละครั้ง อยู่ได้นานแค่ไหน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ในครั้งต่อๆ ไป ผลอาจคงอยู่ได้ถึง 6-8 เดือน หรือนานกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของผู้รับการรักษาด้วย
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์
งดรับประทานยาลดการอักเสบ หรือ aspirin ก่อนฉีด 1 สัปดาห์ และงดรับประทานวิตามินอี น้ำมันตับปลา primrose แปะก๊วย โสม อย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการช้ำบริเวณที่ฉีด และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
ข้อแนะนำหลังจากการฉีด
- หลีกเลี่ยงการนอนราบเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เนื่องจากตัวยาอาจกระจายออกนอกตำแหน่งที่ฉีด ทำให้ไม่ได้ประสิทธิภาพที่ต้องการ
- ห้ามกดหรือนวดบริเวณที่รับการฉีดโบท็อกซ์ 1 สัปดาห์ เนื่องจากจะทำให้ยากระจายตัว
- หากมีรอยช้ำหลังฉีด แนะนำให้ประคบเย็นต่อด้วยตนเอง
- ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทุก 15 นาที ในชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น
- งดนวดหน้า ประมาณ 1 สัปดาห์
- งดทำทรีตเมนท์หน้าด้วยการใช้เครื่อง RF หรือเลเซอร์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งด Aspirin วิตามินอี ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา โสม อย่างน้อย 2-3 วัน
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงซึ่งอาจพบได้น้อยรายมากในการฉีดโบท็อกซ์ ได้แก่ มีรอยแดง คัน หรือมีรอยเขียวช้ำบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ ปวดคอ คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ โดยที่อาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเอง
ผู้ที่ไม่สามารถรับการฉีดโบท็อกซ์
- ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อ เช่น ผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงบริเวณใบหน้า
- ผู้ที่แพ้ Albumin
- ผู้ที่แพ้ Botulinum Toxin
- หญิงตั้งครรภ์ให้นมบุตร
- ผู้ป่วยที่มีประวัติภูมิแพ้รุนแรง
- ผู้ป่วยที่มีโรคเลือดออกง่ายและไหลหยุดยาก
- ผู้ป่วยที่รับประทานยาที่มีผลต่อเลือด