ผิวแห้ง
ผิวแห้ง?
ผิวแห้งเป็นผิวที่ขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากน้ำหรือความชุ่มชื้นในผิวหนังชั้นหนังกำพร้าลดลง
อาจมีปัจจัยที่ทำให้เกิดผิวแห้ง ได้แก่ เพศ อายุ โรคผิวหนัง พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น
การอาบน้ำร้อน อากาศที่แห้งและเย็น เป็นต้น ซึ่งหากเกิดผิวแห้งมากอาจก่อให้เกิดการอาการแสบคัน และการอักเสบของผิวเนื่องจากการเกาได้
วิธีสังเกตและทดสอบผิวแห้ง
การทดสอบผิวแห้งนั้นเราสามารถทดสอบเองได้โดยลองใช้นิ้วชี้ลูบไล้บริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งของ ร่างกาย โดยวิธีดูความหนืดของผิว ซึ่งผิวแห้ง จะมีความหนืดสูงเมื่อลูบไล้บนผิวแล้วมีรอยสะเก็ดสีขาว เมื่อสังเกต จะมองเห็นร่องของผิวชัดเจน อาจมีอาการแดงลอกเป็นขุย แตกลาย โดยมักพบบริเวณ แขน ขา และมือ
- สารเคลือบผิว (Emollient) เป็นน้ำมันต่างๆ จุดประสงค์เพื่อกักน้ำไม่ให้ระเหยออกจากผิว หรือเพื่อคงความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้าน
- สารเพิ่มความชุ่มชื้น มีหลายชนิดเช่น กรดโพลีกลูตามิก (polyglutamic) ยูเรีย (Urea) กลีเซอรีน (Glycerine) โซเดียมพีซีเอ (Sodium PCA) กรดไฮยารูโลนิก (Hyaluronic Acid)
โดยทั่วไปผิวจะมีน้ำมีนวลจากธรรมชาติสูงสุดเมื่อมีอายุ 18 ปี ซึ่งสารน้ำนวลธรรมชาติประกอบด้วย สารยูเรีย (Urea) กรดน้ำนม (Lactic Acid) โซเดียมพีซีเอ (Sodium PCA) กลุ่มกรดอะมิโน เช่น สารอาร์จินิน (Arginine) อัลลานิน (Alanine) ฯลฯ และมีกลุ่มสารควบคุมความเป็นกรดของผิว (Acid mantle) ให้มี pH 5 เมื่ออายุมากขึ้น สารน้ำนวลธรรมชาติเริ่มลดน้อยลง น้ำมันที่ใบหน้ามีค่าความเป็นกรดด่าง pH 6 จึงเป็นต้องหาสารทดแทน โดยเฉพาะโซเดียมพีซีเอ (Sodium PCA) กรดไฮยารูโลนิก (Hyaluronic Acid) กรดน้ำนม (Lactic Acid) เพื่อควบคุมความเป็นกรดที่สมดุล
ฉะนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารน้ำนวลธรรมชาติสำหรับผิวหน้าที่มีค่าความเป็นกรด pH 4 เพื่อปรับ pH เป็น 5 ซึ่งเท่ากับ pH ของผิวปกติ และต้องมีส่วนผสมของสารปกป้องผิวสำหรับผิวหน้า และกาย ซึ่งประกอบด้วย สารกรดไขมัน เซราไมด์ 3 (Ceramide 3) และไขมัน เช่น กลุ่มฟอสโฟไลปิดส์ (Phospholipids) คอลเลสเตอรอล (Cholesterol) ซึ่งมักเสื่อมสลายโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้